วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2554

แบบจำลองฐานข้อมูล

แบบจำลองฐานข้อมูล
                 แบบจำลองฐานข้อมูลในปัจจุบันมีอยู่ 4 รูปแบบได้แก่  (Hierarchical database Model), แบบจำลองฐานข้อมูลแบบเครือข่าย (Network database Model),    แบบจำลองฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational database Model), แบบจำลองฐานข้อมูลเชิงวัตถุ (Object-Oriented database Model)

 (Hierarchical database Model)
                      ลักษณะโครงสร้างของฐานข้อมมูลแบบลำดับขั้นนี้  จะมีลักษณะคล้ายต้นไม้ที่คว่ำหัวลงซึ่งอาจเรียกโครงสร้างฐานข้อมูลแบบนี้ได้อีกแบบว่า โครงสร้างแบบต้นไม้ (Tree Structure)                       รูปแบบโครงสร้างของแบบจำลองประเภทนี้คือ มีระเบียนที่อยู่แถวบนซึ่งเรียกว่า ระเบียนพ่อแม่ (parent record)  ส่วนระเบียนในแถวถัดลงมาเรียกว่า ระเบียนลูก (child record)   โดยระเบียนพ่อแม่จะสามารถมีระเบียนลูกได้มากว่าหนึ่งระเบียน  แต่ระเบียนลูกแต่ละระเบียนสามารถมีระเบียนพ่อแม่เพียงหนึ่งระเบียนเท่านั้น

                                รูป แสดงโครงสร้างฐานข้อมูลแบบลำดับชั้น


รูป ตัวอย่างแบบจำลองฐานข้อมูลแบบลำดับชั้น

 จากตัวอย่างข้างต้น    ลูกค้าแต่ละคนจะได้รับบริการจากพนักงานขายเพียงคนเดียวเท่านั้นตามโครงสร้างแบบฐานข้อมูลแบบลำดับชั้นแล้ว พนักงานขายจะถือว่าเป็นระเบียนพ่อแม่ของลูกค้า  ส่วนสินค้าแต่ละชนิดก็จะถูกซื้อโดยลูกค้าเพียงคนเดียวเท่านั้น เนื่องจากสินค้าแต่ละชนิดจะเป็นระเบียนลูกของระเบียนลูกค้า เป็นต้น

 ข้อมูลในฐานข้อมูลแบบลำดับชั้นนี้สามารถมีความสัมพันธ์ของข้อมูลเป็นแบบหนึ่งต่อหนึ่ง (1:1)   หรือหนึ่งต่อกลุ่ม (1:M)  แต่ไม่สามารถมีความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม (M:N)

แบบจำลองฐานข้อมูลแบบเครือข่าย (Network database Model)


                      ข้อมูลในฐานข้อมูลแบบนี้สามารถมีความสัมพันธ์กันแบบใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นแบบหนึ่งต่อหนึ่ง หนึ่งต่อกลุ่มหรือกลุ่มต่อกลุ่ม

 จากตัวอย่างข้างต้น  จะเห็นได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างร้านค้ากับสินค้าเป็นแบบกลุ่มต่อกลุ่ม นั่นก็คือ ร้านค้าจำหน่ายสินค้ามากกว่าหนึ่งอย่าง   และสินค้าแต่ละอย่างก็ถูกจำหน่ายจากร้านค้าหลายร้านค้า



แบบจำลองฐานข้อมูลเชิงวัตถุ (Object-Oriented database Model) 
       แบบจำลองข้อมูลเชิงวัตถุนี้เกิดจากแนวคิดของการโปรแกรมเชิงวัตถุ (Object Oriented Program :OOP)   โดยจะมองของทุกสิ่งเป็นวัตถุ และในแต่ละวัตถุจะเป็นแหล่งรวมของข้อมูลและการปฏิบัติงาน    ซึ่งจะมีคลาสเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติหรือรายละเอียดของวัตถุรวมทั้งคุณสมบัติการปิดความลับของวัตถุ       สำหรับการเข้าถึงข้อมูลนั้น   ต้องมีการตอบรับจาก เมตธอด (method) ในวัตถุนั้นว่าจะอนุญาตในการส่งข้อความ (message) เพื่อการติดต่อหรือไม่


 ที่มา






 













ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น